โปรพอลิส สารมหัศจรรย์ธรรมชาติ จากรวงผึ้ง
โปรพอลิสจากผึ้ง เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ จากการค้นพบสารช่วยบำรุงสุขภาพที่มาจากสารธรรมชาติล้วน ๆ ที่ร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ช่วยบรรเทาอาการอักเสบผิวหนัง โรคกระเพาะอาหาร และ ปรับปรุงภูมิคุ้มกันโดยทั่วไปให้ดีขึ้น โปรพอลิส มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อได้หลากชนิด ช่วยควบคุมให้พ้นจากการสลายตัวของเซลล์ ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าเป็นโรคมะเร็ง
โปรพอลิสเป็นสารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสารต้านเชื้อตามธรรมชาติที่ทรงประสิทธิภาพ สามารถช่วยความเจ็บป่วย ตั้งแต่โรคหวัดธรรมดา จนถึงโรคไขข้อ และการเจ็บป่วยจากการรับสารกัมมันตรังสี จากการประเมินผลงานวิจัย สารที่บรรจุอยู่ภายใน พบว่าโปรพอลิสเป็นมากกว่ายาฆ่าเชื้อจากธรรมชาติและยารักษา เพราะโปรพอลิสคือ “สารอาหาร” เพียงแต่ทราบหรือเปล่าว่า โปรพอลิสคืออะไร? เตรียมมาได้อย่างไร? ช่วยคุณได้อย่างไร? เรามาพิจารณาสารอาหารที่ทรงประสิทธิภาพนี้ด้วยกัน
โปรพอลิส (Propolis) คือสารประกอบเรซินเหนียวสีน้ำตาลผสมกับไขผึ้ง ผึ้งเก็บโปรพอลิสมาจากต้นไม้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อโรคภายในรัง ผึ้งยังใช้โปรพอลิสเป็นเสมือนกาวยารัง และเป็นสารเคลือบสัตว์ที่เข้ามาตายภายในรังเพื่อมิให้เน่าเปื่อย
เมื่อพิจารณาในด้านสารประกอบทางเคมี จะพบสารสำคัญที่ทำให้โปรพอลิส (Propolis) มีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ คือ สารประกอบฟลาโวนอยด์(Flavonoid) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่เป็นที่รู้จักว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidant) ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบ
นอกจากนี้ยังพบสารอาหารอื่น ๆ อีกกว่า 32 ชนิด อันได้แก่ กรดอะมิโน, คาร์โบไฮเดรต, วิตามินต่างๆ, เกลือแร่, เอนไซม์ และสารต่อต้าน ,ฮอร์โมนจากธรรมชาติ ฯลฯ
โปรพอลิส(Propolis) เป็นสารปฏิชีวนะจากธรรมชาติ (Natural Antibiotic) และเป็นอาหารเสริมที่ปลอดภัย ปราศจากสารพิษ
คุณสมบัติของโปรพอลิส กับรังผึ้ง
เนื่องจากโปรพอลิสมีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ผึ้งจึงใช้โปรพอลิสปูพื้นรังผึ้งที่เป็นที่อาศัยของตัวอ่อนซึ่งจะกลายเป็นราชินีผึ้งในอนาคต โปรพอลิสเป็นสารปฏิชีวนะที่น่ามหัศจรรย์ในแง่ที่ว่า มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อโรคอย่างเฉพาะเจาะจง โดยมีผลฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รา และ ไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคเท่านั้น และไม่มีผลต่อการทำลายเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีเชื้อแบคทีเรียชนิดใดที่ดื้อต่อโปรพอลิส จากคุณสมบัติที่สำคัญนี้ทำให้มนุษย์ได้นำเอาผลิตผลของผึ้งชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างกว้างขวางมาแต่สมัยโบราณ จนถึงยุคปัจจุบัน และจากประสบการณ์การใช้มาเป็นเวลานานไม่พบว่ามีผลข้างเคียงแต่ประการใด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงผึ้งได้รายงานการศึกษาวิจัยในผู้ช่วยจำนวนกว่า 50,000 คนในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย พบว่า ประสิทธิภาพของโปรพอลิส ครอบคลุมกว้างขวางมาก ได้แก่ โรคมะเร็ง การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ อาการบวมบริเวณคอ โรคเก๊าท์ แผลเปิด โรคไซนัสอักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ โรคของหู โรคปริทันต์ การติดเชื้อในลำไส้ แผล ผื่นคัน ลมพิษ ปอดบวม ข้ออักเสบ โรคปอด ไวรัสลงกระเพาะ ปวดศีรษะ โรคพาร์กินสัน โรคติดเชื้อทางเดินน้ำดี โรคผิวหนัง การไหลเวียนของเลือดบกพร่อง หูด เยื่อบุตาอักเสบและเสียงแหบ โปรพอลิสช่วยในการควบคุมฮอร์โมนและเป็นสารจากธรรมชาติที่มีประโยชน์สำหรับทุกคนทั้งที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่สบาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ส่วนประกอบสำคัญของโปรพอลิส
ในการวิจัยส่วนประกอบสำคัญของโปรพอลิส พบว่ามีสารจากธรรมชาติหลายชนิดซึ่งออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่
1. กรดอินทรีย์ ( Organic Acids ) เช่น กรดเบนโซอิค (Benzoic acid), กรดซินนามิค (Cinnamic acid), กรดแคฟเฟอิค (Caffeic acid), กรดเฟรูลิค (Ferulic acid), กรดไอโซ-เฟรูลิค (iso-ferulic acid), กรดไซแนปติค (Synaptic acid)
2. สารโพลีฟีนอล (polyphenols) เช่น อะพิเจนิน (Apigenin)
3. สารฟลาโวน เช่น Chrysin, Lukeolein, Tectochrysin
4. สารฟลาโวนอล (Flavonols) เช่น Galangin, Kaempferol, Quercetin
5. สารฟลาโวโนน (Flavonones) เช่น Isosakmanetin, Pinobanksin, Pinocembrin
6. ยางไม้ (Resins)
7. ขี้ผึ้ง (Wax)
ในปี ค.ศ. 1987 งานวิจัยฉบับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ พบว่า โปรพอลิสประกอบด้วยส่วนผสมต่างๆ 149 ชนิด ในการประชุมโลกเกี่ยวกับโปรพอลิส ในปี ค.ศ.1991 ได้พิสูจน์ว่าโปรพอลิสประกอบด้วยส่วนผสมทางเภสัชกรรมหลายชนิด ส่วนผสมสำคัญคือ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ชนิดต่างๆ
คุณสมบัติสำคัญของโปรพอลิส
โปรพอลิสมีคุณสมบัติสำคัญในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันรักษาโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้คือ
โปรพอลิสมีคุณสมบัติสำคัญในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันรักษาโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้คือ
1. คุณสมบัติในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย โปรพอลิสมีฤทธิ์ในการทำลายแบคทีเรียและยับยั้งการแบ่งตัวของแบคทีเรีย
มากมาย หลายชนิด
2. คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อรา โปรพอลิสมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อราทั้งกลาก เกลื้อนและเชื้อราอีกหลายชนิด
3. คุณสมบัติในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส โปรพอลิสมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ เริม และไวรัสอีกหลายชนิด
4. คุณสมบัติในการทำให้ชา โปรพอลิสมีฤทธิ์ในการทำให้ชาสูงกว่าโคเคนและสามารถใช้แทนยาชาได้ ซึ่งฤทธิ์ดังกล่าวนี้ เกิดจากน้ำมันหอมระเหย
5. คุณสมบัติในการป้องกันการอักเสบ จึงใช้ประโยชน์ได้ดีกับอาการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกาย
6. คุณสมบัติในการสร้างเซลล์ โปรพอลิสมีฤทธิ์กระตุ้นการสังเคราะห์ของเซลล์ และเนื้อเยื่อ จึงให้ประสิทธิภาพในการเร่ง ขบวนการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดแผลเป็น
7. คุณสมบัติในการรักษาข้ออักเสบ โปรพอลิสเมื่อใช้โดยการรับประทานมีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการอักเสบของข้อ โดยมีผลการวิจัยแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในการบรรเทาอาการอักเสบของข้อ
8. คุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิต้านทาน คุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิต้านทานของโปรพอลิส เป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นสิ่ง
มหัศจรรย์ของธรรมชาติ
9. คุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารในกลุ่มฟลาโวนอยด์มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีประโยชน์ในการชะลอ ความเสื่อมของร่างกาย ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดและใช้ประโยชน์ในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งภาวะความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
โปรพอลิส สารปฏิชีวนะของธรรมชาติ ที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด
ส่วนผสมและผลที่พบจากโปรพอลิสทำให้นักวิจัยทั่วโลกตกตะลึง ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นการบันทึกเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของการใช้โปรพอลิสจากทั่วโลก
1. ด้านทันตกรรม
· โรคเหงือก
ดร. เอส. ออร์ลอฟ (Dr. S. Orlov) จากยูโกสลาเวีย ใช้โปรพอลิสรักษาผู้ป่วยโรคเหงือกชนิดต่างๆ 50 คนอย่างได้ผล
1. สรรพคุณในการต้านเชื้อราของโปรพอลิสสามารถบรรเทาการอักเสบของโรคเหงือกได้อย่างรวดเร็ว
2. สรรพคุณการกระตุ้นของโปรพอลิสเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อเยื่อที่เหงือกถูกสร้างขึ้นมาใหม่
· อาการปากอักเสบ และโรคทางทันตกรรมอื่นๆ รายงานทางการรักษาจากห้องศัลยกรรมในประเทศญี่ปุ่นระบุว่า : โปรพอลิสมีประสิทธิภาพต่ออาการปากอักเสบหรือมีหนอง และใช้ได้ดีในอาการต่อไปนี้
1. เหงือกและฟันมีหนองและอักเสบรุนแรง การติดเชื้อที่ลิ้น ปากอักเสบ
2. เลือดออกตามไรฟัน
3. ปากเปื่อยมีหนองออกตามไรฟัน
4.การปวดฟันหลังการถอนฟัน
2.โรคหู คอ และจมูก
· โรคเกี่ยวกับกล่องเสียงและคอ
รายงานจาก ดร. พี. เอ็น โดโรเชนโก ( Dr.P.N.Doroshenko) ในรัสเซีย ระบุว่า “ โรคหวัดเรื้อรัง” เป็นโรคที่ธรรมดามาก ผู้ป่วยมักรู้สึกคอแห้ง เจ็บ ระคายเคืองคอ และอยากไอ บางครั้งสิ่งที่ไอออกมาก็มีกลิ่นเหม็นมาก หรือเป็นเลือด บางคนรู้สึกปวดหัวและเป็นไข้ ให้ใช้กลีเซอรีน (glycerin) ผสมกับโปรพอลิสและแอลกอฮอล์ ในคนไข้ 238 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 33-67 ปี และมีประวัติการเป็นโรค 1-12 ปี หลังจากที่ใช้โปรพอลิสแล้ว ประมาณ 74.6% ได้รับการรักษาหาย, 14.7 % มีอาการดีขึ้นบ้าง และที่เหลือ 3.8% อาการคงที่
· การได้ยินลดลง
ดร.ไอ.ที.เพอร์ชาคอฟ ( Dr.I.T. Pershacov ) คิดว่า โปรพอลิสเป็นยาที่ดี ซึ่งเป็นความจริงที่ทุกคนทราบ มันสามารถฆ่าเชื้อโรค ต้านสารพิษ บรรเทาอาการอักเสบของแผล ลดความเจ็บปวด และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่
วิธีการ : นำสารผสมระหว่างโปรพอลิสและแอลกอฮอล์ ผสมกับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันข้าวโพด (อัตราส่วน 4:1)
เป้าหมาย : ผู้ป่วย 335 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับระดับการได้ยินเสียง
ผล : หลังจากการรักษา ผู้ป่วย 314 คน ได้ยินดีขึ้น , 199 คน ได้ยินเสียงกระซิบ ในระยะ 10 ฟุต , 155 คน ได้ยินเสียงกระซิบในระยะ 5 ฟุต ที่เหลืออีก 25 คน ไม่แสดงความก้าวหน้าใดๆ
· หูอักเสบ โพรงจมูกอักเสบ
ดร.เจ.เค ไลปุส (Dr.J.k Leipus) จากรัสเซีย ได้จัดทำบัญชีรายการสถานการณ์ที่ชาวรัสเซียใช้โปรพอลิส ในการประชุมการศึกษาเกี่ยวกับผึ้งนานาชาติ ครั้งที่ 23 เขากล่าวว่า
1. โปรพอลิส สามารถรักษาไข้หวัด โพรงจมูกอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ โรคหืด โรคปอดอักเสบเรื้อรัง และวัณโรค
2. ในส่วนของโรคปากเปื่อย มันสามารถรักษาอาการเกิดตุ่มเม็ดเล็ก และยังรักษาโรค คอ หู และจมูกได้ด้วย โดยเฉพาะหูอักเสบ โปรพอลิสสามารถรักษาบาดแผลอวัยวะภายในโดยทำลายเชื้อไวรัสที่อันตราย
3. โดยปกติท่านสามารถชงโปรพอลิสดื่มกับน้ำอุ่น 2-3 ครั้งเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะทำให้สารแอลกอฮอล์ในโปรพอลิสเจือจางลง 20 -30%
3. แผนกทรวงอก (ระบบหายใจ)
· โรคปอด
การทดสอบโดย ดร.จี.เอช. จารีโนวา (Dr. G.H. Jarinova) และ ดร.อี.ไอ. โรดิโอโนแวน (Dr. E.I. Rodionovan)
เป้าหมาย : ผู้ป่วย 135 คน อายุ 6-50 ปี ป่วยเป็นโรคถุงลมปอด 109 คน ป่วยเป็นวัณโรค 15 คน และป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ 11 คน ในผู้ป่วย 135 คนนี้ มี 40 คน ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และมี 53 คน จากที่เหลือ 95 คน ได้รับยารักษาโรคปอดจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้ผล
วิธีการ : ผู้ป่วยทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้รับการรักษาโดยทานโปรพอลิส ก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 4-10 เดือน
ผล : ผู้ป่วยทั้ง 135 คน มีอาการดีขึ้น
· การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ (ไข้หวัด)
รายงานทางการรักษาของแพทย์ชาวญี่ปุ่น – เซนากะ เรียวซาบุโระ (Senaga Ryouzaburou) ระบุว่า หลังจากได้รับการทดสอบให้ใช้โปรพอลิส (750-1500 ม.ก./วัน) ผู้ป่วยโรคหวัด 44 คน มีผลการรักษา ดังนี้
1.อาการไข้ 82% ของผู้ป่วย มีอาการดีขึ้นภายใน 4-5 วัน
2.อาการเจ็บคอ 60% ของผู้ป่วย มีอาการเจ็บคอน้อยลงภายใน 3 วัน
ลูเลียน ซิโอคา (Lulianan Cioca) เอ.มูติน (A. Mutin) นีนา ซาห์นาซารอฟ (Nina Sahnazarov) วี.เอสซานู (V.Esanu) เอ. โพเพสคู (A. Popescu) จากโรมาเนีย ได้ร่วมกันทำงานวิจัยเรื่อง : โปรพอลิสสามารถควบคุมเพื่อทำลายโรคติดต่อบางชนิดที่เกิดจากเชื้อไวรัสในพืชและสัตว์ เช่น ไวรัสไข้หวัด เป็นต้น
4. แผนกผิวหนัง
· โรคผิวหนัง
ดร. แอล.เอ็น.ดานิโล (Dr. L.N. Danilow) จากรัสเซีย ทำงานวิจัยเรื่อง ผลของโปรพอลิสที่มีต่อผิวหนัง เขาระบุว่า ระหว่างปี ค.ศ. 1964-1972 เขาทำงานเกี่ยวกับโรคผิวหนังชนิดต่างๆใน E.R. ของ Svetogorsk และใช้ โปรพอลิส มีผู้ป่วย 680 คน ได้รับการรักษาโดยใช้โปรพอลิส และ 91.1% มีอาการดีขึ้น พวกเขาใช้ครีมที่ทำจากโปรพอลิสซึ่งทำขึ้นเอง
ดร.วี.เอฟ .ออร์คิน (Dr.V.F.Orkin) และ ดร.เอส.ไอ. ดอฟสฮานสกี (Dr.S.I.Dovzhanski) ระบุว่า ถ้าคุณทรมานจาก โรคผิวหนัง ให้คุณทาครีมโปรพอลิส 20 % บนส่วนที่เป็น และส่วนนั้นจะกลับมาเรียบเนียนและสะอาด ผื่นบนผิวหนังจะหายไป เหตุผลสำคัญเป็นเพราะโปรพอลิสมีสรรพคุณในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดการเจริญเติบโตของไวรัส สแต็ฟฟิลโลคอคคัส รวมทั้งยังกระตุ้นปฎิกิริยาของสารทำลายแบคทีเรียอีกด้วย
· ผิวหนังพุพอง
ในรายงานของ ดร.เวอร์ด เค็นนิง (Dr.Vernd Kenning) และ ดร.โจสท์ เอช.ดัสท์มัน (Dr. Jost H Dustmann) จากสถาบันวิจัยเกี่ยวกับผึ้ง ในเยอรมันตะวันตก (1985) ระบุว่า ปัจจุบันเราได้พบสารประกอบต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดใหม่ เรียกว่า แคฟฟิออยลิค (Caffeoylic) ซึ่งเพิ่มคุณค่าในการรักษามากขึ้น จากผลการวิจัยในอดีตและปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้คือ สารประกอบคัฟฟิออยลิคสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสทุกชนิด อย่างน้อยก็สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดผิวหนังพุพองได้
· หยุดอาการคัน
ดร.มูคามีดิยารอฟ (Dr. Mukhamediyarov) พบว่า การผสมโปรพอลิส 10% - 20% น้ำมันลาโนลิน (lanolin) และวาสลิน (Vaseline) ทาบนผิวหนังที่ติดเชื้อ จะสามารถหยุดอาการคัน และรักษาให้หายได้ในที่สุด
5. อาการปวดท้อง
โรคแผลในกระเพาะอาหาร
ดร.เอ วาซิลคา (Dr. A. Vacilca) และ ดร. ยูเจเนีย มิลคู (Dr. Eugenia Milcu) จากโรมาเนีย ใช้โปรพอลิสในการรักษาแผลเปื่อยเรื้อรัง พวกเขาใช้ แอลกอฮอล์เข้มข้นผสมโปรพอลิส 20-50 % เพื่อรักษาผู้ป่วยแผลเรื้อรัง ในผู้ป่วย 34 คน มี 6 คน ที่อาการดีขึ้น ส่วนที่เหลือ 28 คน หายเป็นปกติ
ลำไส้อักเสบ
ดร. เอส. นิโคลอฟ (Dr. S. Nikolov) ดร. ที.โทโดรอฟ (Dr. T. Todorov) ดร. อี. โจจีวา (Dr. E. Gueoguieva) ดร. เอส. ไดรซานอฟ (Dr. S. Drisanovsk) และ ดร. วี. วาซิลีฟ (Dr. V. Vasiliev) ได้ทำการวิจัย กระบวนการทดสอบการใช้โปรพอลิส เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบรุนแรง ผลการรักษาพบว่า :
เป้าหมาย : ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 15 คน และผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ 30 คน (หญิง 30 คน ชาย 15 คน) อายุระหว่าง 20-65 ปี
วิธีการ : ผสมโปรพอลิส แอลกอฮอล์ ที่มีน้ำเจือจาง 30% รับประทานกับน้ำนมอุ่นๆ ก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง ในระยะแรกใช้ 30 หยด และต่อมาเพิ่มเป็น 40 หยด
ผลการรักษา : หลังจากใช้โปรพอลิสในการรักษา ผู้ป่วย 45 คน มีผลเชิงบวก 6 คน มีผลดีมาก 12 คนมีผลดี 5 คน มีผลเป็นที่น่าพอใจ มีเพียง 2 คน ที่ไม่มีผลตอบรับเชิงบวก ผู้ป่วยส่วนใหญ่เจ็บปวดน้อยลงหลังจากใช้โปรพอลิสไปได้ 7 วัน เมื่อถึงวันที่ 19 – 20 พวกเขาไม่รู้สึกปวดเลย ความดันเลือดลดลง 10 – 15 ม.ม. (ความดันขณะหัวใจคลายตัว)
6. มะเร็ง
มะเร็งตับ
ผู้ป่วยอายุ 42 ปี เกิดที่นอร์ดซีแลนด์ ขณะนี้อยู่ที่เบรแมน ประเทศแคนาดา ในปี ค.ศ. 1949 เขาต้องผ่าตัดเพราะเป็นมะเร็ง แต่ก่อนการผ่าตัด 6 วัน ญาติของเขาได้ให้โปรพอลิสมาทดลองใช้เมื่อใกล้วันที่หก มะเร็งได้หดตัวลง และสามารถเอาออกได้ง่าย ทำให้เขาไม่ต้องผ่าตัด เขาจึงพบความมหัศจรรย์ของโปรพอลิส และใช้มันต่อไป หลังจากนั้นไม่นาน เขากลับไปทำงานด้วยน้ำหนัก 50 ปอนด์ ในอีก 6 เดือนต่อมาเขาหยุดใช้โปรพอลิส แต่ 7 – 8 เดือนต่อมา แพทย์ได้พบว่า เขาเป็นมะเร็งตับ แพทย์รักษาเขาด้วยวิธีปกติและใช้รังสีบำบัด อย่างไรก็ตามตัวเขาเองเลือกที่จะใช้โปรพอลิสอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแพทย์ถามว่าเขาจะรักษาตามวิธีการของแพทย์หรือไม่ เขาตอบ “ไม่ ผมจะรักษาโดยใช้โปรพอลิสเท่านั้น” ปัจจุบันเขาสามารถทานอาหารได้ตามปกติ และมันเป็นสิ่งประหลาดใจมากสำหรับแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาอีก เขารับประทานโปรพอลิสครั้งละครึ่งช้อนพร้อมอาหารทุกวัน
มะเร็งกระดูก
ในโปแลนด์มีแพทย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกด้วยโปรพอลิส คนไข้ของถูกตัดขาไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่เซลล์ มะเร็งยังคงกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ดังนั้นแพทย์คนนี้จึงรักษาคนไข้ด้วยการให้โปรพอลิสวันละ 3 ครั้งๆ ละ 15 หยด หลังจากนั้น 45 วัน เซลล์มะเร็งเริ่มหายไป น้ำหนักของคนไข้เพิ่มขึ้น และเขายังคงใช้โปรพอลิสต่อไป จากรายงานการรักษา หลายปีผ่านไป คนไข้ไม่มีเซลล์มะเร็งอีกเลย
มะเร็งเม็ดเลือด
ดร.เอ็น. โปโปวิซี (Dr. N. Popovici) ได้เขียนบทความ และกล่าวในการประชุมการรักษาโรคด้วยโปรพอลิสว่า ผลการใช้โปรพอลิสจะเปลี่ยนไปตามกลุ่มสิ่งมีชีวิต เขากล่าวด้วยว่า “ผู้รอบรู้หลายคนพิสูจน์แล้วว่า โปรพอลิสสามารถลดภาวะการเป็นมะเร็ง และพัฒนาภาวะโลหิตจางในมะเร็งเม็ดเลือดขาวให้ดีขึ้นในสถานการณ์ที่ต่างกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงตัดสินใจที่จะศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับหน้าที่ของเซลล์เมื่อเซลล์ขาดความสมดุล ถูกจู่โจมโดยเซลล์มะเร็ง ระหว่างการทดลองเราปล่อยให้เชื้อเจริญเติบโตในน้ำโปรพอลิส 1 % เพื่อให้เซลล์มะเร็งและโลหิตจางในมะเร็งเม็ดเลือดขาวลดภาวะปฏิชีวนะ จากการสังเกตพบว่า หลังจากใช้โปรพอลิส อาการของมะเร็ง และโลหิตจางในมะเร็งเม็ดเลือดขาวลดลง ซึ่งเราต้องทำการทดลองต่อไป”
7. โรคอื่นๆ
ความดันโลหิตสูง
ผู้เชี่ยวชาญด้านผึ้งชาวจีน ดร.ฝาง จู (Dr. Fang Chu) ระบุว่าโปรพอลิสสามารถรักษาภาวะไขมันสูงในเลือด มีผู้ป่วยอายุ 45 ปี ป่วยเป็นความดันโลหิตสูง เส้นเลือดขาดความยืดหยุ่น และ เส้นเลือดอุดตัน ได้รับการรักษาโดยใช้โปรพอลิสวันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผลการรักษาพบว่า ภาวะไขมันสูงในเลือดลดลง ภาวะของเส้นโลหิตหนาและขาดความยืดหยุ่น รวมทั้งเส้นเลือดอุดตันได้พัฒนาดีขึ้น
โรคเฉพาะสตรี
ดร. เอช. ซูซี่ (Dr. H. Susy) และ ดร. เอส. เชลเลอร์ (Dr. S. Scheller) ได้ประกาศในบทความซึ่งพิสูจน์ผลการทดลองเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโปรพอลิสในการรักษาช่องคลอดอักเสบ และโรคติดเชื้อทางปากมดลูก
กรณีที่ 1 : ผู้ป่วย 46 คน ได้รับการรักษาโดยใช้โปรพอลิส 7 – 10 วัน ร้อยละ 80.4 สามารถรักษาให้หายขาดได้ ร้อยละ 19.2 รักษาได้เฉพาะส่วนที่ถูกทำลายแล้ว ผู้ป่วยทุกคนมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โปรพอลิสพิสูจน์ให้เห็นถึงการให้ผลดีในการรักษาช่องคลอดอักเสบ และโรคติดเชื้อทางปากมดลูกอีกครั้งหนึ่ง
กรณีที่ 2 : ผู้ป่วย 95 คน ใช้โปรพอลิสในการรักษาบาดแผลที่ช่องคลอด มดลูก และโรคอื่นๆ ที่คล้ายกัน ผู้ป่วยบางคนที่ติดเชื้อโปรโตซัวได้รับการรักษาโดยการทาโปรพอลิส หลังจากนั้น 10 -15 วัน อาการก็ดีขึ้น อาการติดเชื้อหายไป 2 – 3 วัน หลังจากนั้นน้ำจากช่องคลอดก็กลับเป็นปกติ
กรณีที่ 3 : รายงานจาก ดร. เอส เชลเลอร์ (Dr. S. Scheller) ระบุว่า โปรพอลิสสามารถรักษามะเร็งทรวงอก โดยการหุ้มโปรพอลิส 3 % บนแผลผ่าตัด (ขณะผ่าตัด) ในวันที่สามแผลจะแห้ง และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ การใช้โปรพอลิสทำให้กระบวนการรักษาเร็วขึ้น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโปรโตซัวและใช้โปรพอลิสในการรักษาจะกลับคืนสู่สภาพปกติได้เร็วกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้โปรพอลิสในการรักษา
ภูมิคุ้มกัน
ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันสอนที่มหาวิทยาลัยคี (Kie University) เยอรมันตะวันตก ดร. เบนท์ ฮาฟสทีน (Dr. Bent Havsteen) ได้ระบุว่า : โปรวิตามิน บี ในโปรพอลิสมีสรรพคุณเหมือนแอสไพริน แต่ดีกว่า เพราะไม่มีผลข้างเคียง เขากล่าวว่า : โปรวิตามิน บี ในโปรพอลิสสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตภูมิคุ้มกันธรรมชาติ – สารป้องกันเชื้อรา โปรวิตามิน บี และสารป้องกันเชื้อราจะช่วยปกป้องร่างกายได้
โปรพอลิส สามารถช่วยให้อาการต่างๆเหล่านี้ดีขึ้น
ศีรษะ
|
อ่อนเพลีย ตึงเครียด ปวดหัวเรื้อรัง เนื้องอกในสมอง
|
ใบหน้า
|
ปวดเมื่อยดวงตา โรคตาอื่นๆ เกร็งเส้นประสาท เยื่อจมูกอักเสบ หนองในโพรงจมูก หูอักเสบ
|
ระบบทางเดินหายใจ
|
โรคหืด วัณโรค ต่อมทอนซิลอักเสบ ถุงลมโป่งพอง ไข้หวัด มะเร็งในปอด เจ็บคอ
|
ระบบทางเดินอาหาร
|
เยื่อหุ้มฟันอักเสบ ปวดฟัน กระเพาะอาหารอักเสบ หลอดอาหารอักเสบ มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งในช่องท้อง แผลในลำไส้ใหญ่ อาการไวต่อสารในลำไส้ใหญ่ แผลในช่องท้องที่เกิดจากความเครียด
|
ตับ
|
ตับอักเสบ ตับแข็ง ตับมีไขมันมาก มะเร็งตับ เบาหวาน โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
|
ประสาท
|
ความเครียด การหดเกร็งของระบบประสาท ไฮเปอร์โนเอีย ฮิสทีเรีย วัยทอง
|
ระบบขับถ่าย
|
โรคไต ตับ ลำไส้ใหญ่ ริดสีดวงทวาร ท้องผูกเรื้อรัง
|
อวัยวะสืบพันธุ์หญิง
|
เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุมดลูกอักเสบ ความผิดปกติของประจำเดือน ภาวะผิดปกติก่อนมีประจำเดือน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
|
ผิวหนัง
|
เมทาบอลิซึมของผิวหนัง เฮปาติซึม ภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบ เนื้องอกที่ผิวหนัง ตาปลา เชื้อราที่เท้า
|
ระบบหมุนเวียนเลือด
|
โรคหัวใจ โรคไตอักเสบ อ่อนเพลีย ลูคีเมีย มะเร็ง เนื้องอกที่ต่อมน้ำเหลือง
|
ข้อต่อ
|
โรครูมาตอยด์ มะเร็งที่เม็ดเลือดขาว ไขสันหลังอักเสบ โรคเก๊าท์ ข้อสันหลังอักเสบ
|
กล้ามเนื้อ
|
ปวดกล้ามเนื้อ ไหล่แข็ง กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย ปวดหลัง คอลลาเจนดีซีส
|
โปรพอลิสกับอาการอัมพฤกษ์
คุณณรงค์
ประดิษฐ์แท่น อาชีพ ทำนา
เป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้ายมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่สามารถยกขาซ้ายได้ และเป็นเบาหวาน มีแผลที่เท้า
หลังจากทานโปรพอลิสไปขวดแรก มีอาการกระตุกที่ขาซ้าย แผลเบาหวานแห้ง เนื้อประสานตามปกติ
พอทานโปรพอลิสขวดที่ 2 สามารถยกขาซ้ายขึ้นสูงได้และเดินได้
อาการเวียนศีรษะและชักกระตุกที่เคยเป็นก็หายไปด้วย ขอบคุณแอ็ดเวล
ที่นำผลิตภัณฑ์ดีดีอย่างโปรพอลิสมาให้
โปรพอลิสกับแผลเบาหวาน
คุณลุงถิ่ว
เป็นชาวจีน มีอาชีพทำสวนมะพร้าว อยู่มาวันหนึ่งตกจากต้นมะพร้าวมาเหยียบเคียว
ทำให้เกิดแผลเล็กๆที่เท้า แต่เนื่องจากเป็นเบาหวาน
จึงเกิดแผลลุกลาม เป็นบริเวณกว้าง เป็นแผลมานานเกือบ 2 ปี
ไปหาหมอเพื่อรักษาตลอดแต่ก็ไม่หาย จนกระทั่งได้มาทดลองดื่มโปรพอลิส
และใช้โปรพอลิสทาแผล ภายใน 1 เดือน แผลเริ่มแห้งและตื้นขึ้นดังภาพ
อาการหลังจากการดื่มโปรพอลิส
1.หลังจากการดื่มโปรพอลิส
ร่างกายจะมีการตอบสนองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน เมื่อใช้โปรพอลิสในครั้งแรก
ๆ ท่านจะมีอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการขจัดสารพิษ เช่น มีอาการถ่ายท้อง ปัสสาวะบ่อย
ปวดศีรษะ รู้สึกหมดเรี่ยวแรง คลื่นไส้
หากท่านเกิดอาการเหล่านี้ท่านไม่ต้องตกใจเพราะก่อนที่ระบบร่างกายต่าง
ๆ จะแข็งแรงขึ้นได้ ขั้นแรก ร่างกายซึ่งเปรียบเสมือนบ้านจำเป็นต้องทำความสะอาดเสียก่อน
โดยเริ่มจากขจัดสิ่งสกปรก ของเสียและสารพิษต่างๆที่เคยอาศัยอยู่
ทั้งภายในเซลล์ในเนื้อเยื่อ และในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายมาเป็นเวลานานนับปี
ให้ออกจากร่างกายตามช่องทางต่างๆกัน เช่น ทางเสมหะ ทางน้ำมูก อุจจาระ ปัสสาวะ
เหงื่อ เป็นต้น ซึ่งระยะแรก อาจทำให้ท่านไม่สบายตัวอยู่บ้าง
แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ท่านควรอดทน เพราะเป็นการขจัดสารพิษในร่างกาย
ซึ่งอาจจะใช้เวลาสัก 2 – 3 วัน ( บางท่านอาจจะหลายวัน ) แต่หลังจากพ้นช่วงนี้ไปแล้ว
ท่านจะรู้สึกได้ถึงการมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม การใช้โปรพอลิส ขจัดสารพิษเดิมที่มีอยู่ในร่างกายนั้น
อาจทำให้มีอาการไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งเกิดขึ้น อาจทำให้ท่านมีอาการไม่ปกติ
หรือยากที่จะยอมรับอาการที่เกิดขึ้น
แต่นี่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
และก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่บางคนหยุดการใช้โปรพอลิสเสียก่อน
เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวเพื่อรับสถานการณ์เหล่านี้
จึงไม่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้โปรพอลิส
หากท่านมีปัญหารับไม่ได้กับอาการที่เกิดขึ้น
ท่านควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ที่มีความรู้ด้านการขจัดพิษ
เพื่อท่านจะได้สบายใจในการดื่มโปรพอลิส
2.หากท่านใช้แล้วไม่มีผลตอบสนองแต่อย่างไร
อาจเป็นไปได้ว่าเราไม่ได้สังเกต หรือไม่รู้สึกตัวว่าโปรพอลิสได้ทำงานในระดับเซลล์
บางคนที่ไม่รู้สึกผลที่เกิดขึ้นต่อมาพบว่า เมื่อได้รับการตรวจร่างกาย
ผลเลือดมักจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น ระดับไขมันในเลือด ความดันโลหิต
ระดับน้ำตาลในเลือด จะมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะที่ควบคุมได้อย่างปกติ สิ่งที่อาจจะสังเกตได้ง่ายๆคือพลังงานที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งหมายถึงภูมิต้านทานที่ดีขึ้นนั่นเอง
3.หากใช้โปรพอลิสเป็นเวลานานๆจะไม่มีผลข้างเคียง
หรือเชื้อจะดื้อยาแต่อย่างใดเพราะ โปรพอลิสเป็นสารปฏิชีวนะที่น่ามหัศจรรย์ในแง่ที่ว่ามีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อโรคอย่างเฉพาะเจาะจงโดยมีผลฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
เชื้อรา และเชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคเท่านั้น แต่ไม่มีผลต่อการทำลายเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ประการใด
นอกจากนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีเชื้อแบคทีเรียชนิดใดที่ดื้อต่อโปรพอลิส คุณสมบัติที่สำคัญนี้ทำให้มนุษย์ได้นำเอาผลิตผลของผึ้งชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างกว้างขวางตั้งแต่ในสมัยโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน
และจากประสบการณ์ที่ใช้มาเป็นเวลานานไม่พบว่ามีผลข้างเคียงแต่ประการใด
4.หลังจากใช้โปรพอลิสแล้ว
จนรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงดีแล้ว จะหยุดใช้โปรพอลิสได้หรือไม่?
หากเปรียบร่างกายเหมือนบ้านที่สกปรก และได้รับการทำความสะอาดไปแล้ว
และถ้าเราสามารถผนึกบ้านหลังนี้จนไม่มีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสกปรกใดๆเข้าบ้านได้อีก
จึงต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกสะสมจนเราต้องป่วยอีก การรับประทานโปรพอลิสอาจใช้ปริมาณที่ลดลง
หรือจำนวนครั้งลดลงก็ได้
5.โปรพอลิสมีการใช้อย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานานและจัดได้ว่าเป็นสารอาหารจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย
เมื่อใช้ในขนาดที่ผู้ผลิตแนะนำ จะมีความปลอดภัยสูงมาก อย่างไรก็ตามมีการรายงานอาการแพ้ทางผิวหนังที่ไม่รุนแรง
และพบได้น้อยมาก
หมายเหตุ : สินค้าอาจมีการปรับเปลี่ยนราคา โปรดตรวจสอบกับทางผู้ขายก่อนทำการสั่งซื้อ